กลิ่นปาก เกิดจากหลากหลายสาเหตุ วิธีแก้ปัญหากลิ่นปากที่ดีที่สุด จำเป็นจะต้องหาต้นเหตุของการเกิดกลิ่นปากให้พบแล้วแก้ไขตรงเหตุนั้น สาเหตุที่พบบ่อย คือ การมีหินปูนสะสมและฟันผุ ซึ่งเมื่อขูดหินปูนและอุดฟันเรียบร้อยแล้ว ปัญหากลิ่นปากเหม็นก็จะหายไป
โดยทั่วๆไป ปัญหาเรื่องกลิ่นปากอาจจะเกิดขึ้นได้บ้างเป็นการชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังตื่นนอนในเวลาเช้า แต่ถ้ายังมีกลิ่นปากแรงอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นประจำในชีวิตประจำวัน แม้หลังจากการแปรงฟันบ้วนปากเป็นอย่างดีแล้ว ถือว่าเป็นสัญญาณที่ควรจะต้องใส่ใจเพราะแสดงให้เห็นว่าอาจมีความผิดปกติบางอย่างในช่องปาก หรือโรคทางกายบางอย่างก็เป็นได้
การแก้ปัญหาด้วยการบ้วนปาก เคี้ยวหมากฝรั่ง จิบน้ำบ่อยๆ ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้บ้าง แต่ก็เป็นปลายเหตุ กลิ่นปากจึงยังไม่หายไปโดยถาวร
สาเหตุของการเกิดกลิ่นปากพอจะสรุปได้ 9 ประการ ดังต่อไปนี้
1. กลิ่นปากเกิดจากมีหินปูนและเหงือกอักเสบ
สาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นปากที่พบได้บ่อยอย่างหนึ่ง คือ การเป็นโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งเกิดจากการดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดีเท่าที่ควร จนเกิดมีหินปูนสะสมอยู่มาก เมื่อปล่อยไว้นานอาจลุกลามไปจนเป็นโรคปริทันต์ มีปัญหาเหงือกบวม เป็นหนอง ฟันโยก ปวดฟัน ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ที่สะสมในบริเวณที่มีการอักเสบนี่เองที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่าย
คนไข้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบบ่อยครั้งพบว่า แม้จะแปรงฟัน บ้วนปากบ่อยๆ แต่ถ้ายังไม่ได้ แก้ไขที่ต้นเหตุด้วยวิธีขูดหินปูนรักษาโรคเหงือก ให้หายเป็นปกติ กลิ่นปากก็มักจะยังไม่หายไป
การขูดหินปูนมีค่าใช้จ่ายไม่มาก แต่ได้ผลลัพธ์ในการดูแลสุขภาพช่องปากดีเยี่ยม : ขูดหินปูน ราคา
2. ฟันผุ มีกลิ่นปาก ทำไงดี
เศษอาหารที่เข้าไปติดค้างหมักหมมอยู่ในรอยฟันที่ผุ เมื่อมีเชื้อแบคทีเรียเข้าร่วมจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็น ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ที่ดูแลสุขภาพฟันไม่ดีโดยเฉพาะถ้าฟันมีการซ้อนเกมาก ยากต่อการทำความสะอาดให้ทั่วถึง วิธีแก้ไขทำได้ด้วยการอุดฟันให้เรียบร้อย แปรงฟันให้ถูกวิธี ใช้ไหมขัดฟันช่วยทำความสะอาดซอกฟัน ที่แปรงสีฟันเข้าถึงได้ยาก
บทความที่เกี่ยวข้อง : ฟันผุ 4 ระยะ รู้เร็ว รักษาง่าย ค่าใช้จ่ายน้อย
3. การบูรณะฟันที่ไม่เหมาะสม
บางครั้งการอุดฟัน/ทำครอบฟัน หากขอบของวัสดุอุดฟัน/ขอบของครอบฟันไม่แนบสนิท หรือมีแง่ส่วนเกินตามขอบ จะเป็นจุดกักคราบและเศษอาหาร ซึ่งถ้าหากแปรงฟันได้ไม่สะอาดหมดจดก็จะทำให้เกิดการหมักหมม ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็นได้
กรณีเช่นนี้ ควรให้ทันตแพทย์ขัดแต่ง/แก้ไข ให้เรียบร้อย
4. การใส่ฟันปลอม หรือเครื่องมือจัดฟัน
การใส่ฟันปลอมทั้งแบบติดแน่นและแบบถอดได้ รวมถึงการมีเครื่องมือจัดฟันอยู่ในช่องปากระหว่างจัดฟัน เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดซอกให้เศษอาหารติดได้ง่าย เช่น ใต้สะพานฟัน ตามตะขอฟันปลอม ใต้ฟันปลอม ตามอุปกรณ์จัดฟัน เป็นต้น ซึ่งต้องการการเอาใจใส่และทำความสะอาดเป็นพิเศษ มิฉะนั้นก็จะเกิดการหมักหมม เป็นสาเหตุของการอักเสบและกลิ่นปากไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน
เมื่อคนไข้มีการทำฟันปลอมติดแน่นหรือจัดฟันแบบโลหะติดแน่น จะมีอุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดตามใต้สะพานฟัน หรือตามอุปกรณ์จัดฟัน ส่วนฟันปลอมถอดได้หรือเครื่องมีจัดฟันแบบถอดได้ ก็ต้องล้างทำความสะอาดประจำ และแช่น้ำยาทำความสะอาดเป็นครั้งคราว ซึ่งคนไข้ ควรได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์และหมั่นดูแลทำความสะอาดอย่างเหมาะสมตามแต่กรณี
5. กลิ่นปากเกิดจากการหมุนเวียนน้ำลายน้อย
กลิ่นปากที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ โดยมากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นชั่วคราว เช่น ในขณะตื่นนอนตอนเช้า เนื่องจากในระหว่างการนอนหลับน้ำลายจะหลั่งออกมาน้อย ทำให้มีการสะสมของเชื้อจุลินทรีย์ในช่องปากมากขึ้น ร่วมกับอาจมีเศษอาหารที่ตกค้างในช่องปากเกิดการย่อยสลาย ทำให้เกิดสารที่ทำให้มีกลิ่น หลังตื่นนอนในตอนเช้าเมื่อแปรงฟันบ้วนปากตามปกติ ในกรณีทั่วๆไปกลิ่นปากก็จะหายไปได้เอง
กลิ่นปากที่เกิดจากการหมุนเวียนน้ำลายในช่องปากน้อย ยังเกิดขึ้นได้ในอีกหลายสถานการณ์ เช่น ในคนที่ไม่ได้พูดเป็นเวลานานหลายชั่วโมง เมื่อเริ่มพูดในช่วงแรกๆก็อาจเกิดมีกลิ่นปากได้ ส่วนผู้ที่ต้องพูดต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ก็อาจเกิดภาวะน้ำลายแห้งจนมีกลิ่นปากได้เช่นกัน
นอกจากนี้ในผู้สูงอายุบางท่าน ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด หรือผู้ที่เผชิญกับความเครียดสูง ก็อาจมีผลทำให้การหลั่งของน้ำลายลดน้อยลง ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้
วิธีแก้ปัญหากลิ่นปากที่เกิดจากการหมุนเวียนของน้ำลายที่น้อยเกินไปนั้น ทำได้ง่ายๆโดยการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ หรือหมั่นจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อช่วยชำระล้างให้ช่องปากสะอาด ชุ่มชื้น และเศษอาหารไม่หมักหมมอยู่นานเกินไป
6. สาเหตุจากพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต
อาหารบางชนิดมีกลิ่นค่อนข้างแรงจึงทำให้เกิดกลิ่นปากได้ เช่น หัวหอม กระเทียม สะตอ ฯลฯ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ทีละมากๆเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ แต่ก็จะเกิดขึ้นชั่วคราว เมื่อร่างกายย่อย ดูดซึม และขับถ่ายออกไป ปัญหานี้ก็จะหายไปได้เอง
การสูบบุหรี่ นอกจากทำให้มีกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์แล้วยังเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้โรคเหงือกอักเสบรุนแรงขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้การที่มีปัญหาท้องผูกบ่อยๆก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน
การแก้ไขปัญหาจากสาเหตุข้างต้น จึงขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามแต่เหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นปากนั่นเอง
7. การเป็นภูมิแพ้ หรือไซนัสอักเสบ
บางครั้งปัญหากลิ่นปากก็สามารถเกิดขึ้นได้จากการเป็นภูมิแพ้หรือเป็นไซนัสอักเสบ ทำให้มีน้ำมูกและเสมหะไหลมาที่คอและโคนลิ้น ทำให้จุลินทรีย์ที่โคนลิ้นสะสมขึ้นเป็นจำนวนมากจนอาจทำให้เกิดกลิ่นปากแรง ลมหายใจเหม็นได้
วิธีแก้ปัญหาทำได้ด้วยการรักษาอาการของภูมิแพ้ หรือไซนัสอักเสบให้หาย หรือดีขึ้น พร้อมทั้งหมั่นแปรงฟันให้สะอาด โดยเฉพาะการแปรงทำความสะอาดลิ้นบริเวณหลังโคนลิ้นอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นตำแหน่งที่มักมีการสะสมของคราบอาหารอันเป็นสาเหตุของกลิ่น
8. กลิ่นปากเกิดจากการเป็นโรคกรดไหลย้อน
การเป็นโรคกรดไหลย้อน ระบบย่อยอาหารไม่ดี แผลในกระเพาะอาหาร ท้องผูกเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นปากแรง ลมหายใจเหม็นได้ เนื่องจากช่องปากและระบบทางเดินอาหารมีความต่อเนื่องกัน ปัญหาของระบบทางเดินอาหาร จึงอาจมีการแสดงออกทางกลิ่นของช่องปากได้
การแก้ไขจึงควรปรึกษาแพทย์ระบบทางเดินอาหาร เพื่อรักษาให้ตรงตามสาเหตุที่เกิดขึ้น
9. กลิ่นปากเกิดจากโรคทางกายอื่นๆ
โรคทางกายอื่นๆที่สามารถทำให้เกิดปัญหากลิ่นปากได้ เช่น โรคปอดเรื้อรัง วัณโรค โรคต่อมทอลซิลอักเสบ การมีนิ่วทอนซิล โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง ความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในช่องปาก เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งในช่องปากมักจะมีกลิ่นปากที่รุนแรง
ปัญหากลิ่นปากที่เกิดจากสุขภาพร่างกายเหล่านี้ จำเป็นต้องพิจารณาถึงสาเหตุของปัญหาและเข้ารับการรักษาจากแพทย์อย่างถูกต้องเหมาะสมในแต่ละกรณีไป